วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

กินแกงกระตุ้นความจำ

กินแกงกระตุ้นความจำ


เครื่องเทศวำคัญในแกงจืดอย่างขมิ้น  สามารถลดความเสี่ยงการเกิดโรคทางระบบประสาทแลดลดผลกระทบจากดรคเสี่ยงการเกิดกับระบบเส้นประสาทอย่างอัลไวเมอร์ไดอย่างไม่น่าเชื่อ  นอกจากนี้นักวิจัยยังยืนยันถึงประสิทธิภาพยอกเยื่ยมของเครื่องเทศในการตือสู่กับปฏิฏิริยาออกซิเดชั่น  ศัตรูร้ายทำลายเซลล์สมองโดยเฉพาะในหน่วยความจำ  เมื่อเราอายุมากขึ้น  ปฎิกิริยาออกชิเดชั่นจะโจมตีเซลล์สมองมากขึ้นเรื่อยๆ  เนื่องจากสมองเป็นอวัยวะที่เปราะบางและไวต่อการต่อการถูกทำลายจากปฏิกิริยาดังกล่าวมากกว่าส่วนอื่นๆ
                สมองจำต้องสร้างยืนที่มีชื่อว่า Hemeoxygenase-1 (HO-1) ขึ้นมาเพื่อต่อกรกับออกซิเดชั่น  และยีนตัวนี้จะเกิดขึ้นได้ก้ต่อเมื่อสมองถูกกระตุ้นเท่านั้น  และสารกระตุ้นดังกล่าวก้พบมากในขมิ้นนั้นเอง  นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยคาราเนียในอิตาลี  และนิวยอรืกยืนนันถึงประสิทธิภาพของสารสำคัญในขมิ้นที่มีผลต่อการกระตุ้นยีน HO-1 ว่าช่วยยับยั้งไม่ให้เซลล์สมองถูกทำลายโดยออกซิเดนท์ได้เป็นอย่างดี
                เมื่อสมองเกิดสภาวะออกซิเดชั่น  เซลล์สมองจะเกิดการอักเสบและค่อยๆ  ตายไปในที่สุด  ส่งผลให้เซลล์เนื้อเยื่อของเส้นประสาทถูกทำลาย  และนำไปสู่โรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอรื  ขมิ้นจึงไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคดังกล่าวเท่านั้น  แต่ยังบำรุงสองเราให้แยบคมตามอายุที่เพิ่มขึ้นได้อีกด้วยในประเทศอินเดีย  แหล่งเครื่องเทสสำคัญของโลกและนิยมใช้ขมิ้นเป็นส่วนประกอบอาหารมีการทดลองเพื่อค้นหาคุณประโยชน์ของขมิ้นที่นอกเหนือไปจากสรรพคุณในการลดความเสี่ยงของโรคอัลไวเมอร์อย่างกว้างขวาง  และพอว่าสารแอนตี้ออกซิเดนท์ในขมิ้นเป็นกุยแจในการถนอมอาหาร  นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่เมนูอาหารแต่โบราณหลายๆ  จานมีขมิ้นเป็นส่วนรประกอบอีกทั้งยังได้สี  กลิ่น และรสชาติเป็นของแถม
                บรรดาเครื่องเทสต่างๆ  นั้นมีสารปฎิวนะป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรคในอาหารได้มากกว่า  เจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็ตน์  เม้ดสีในเครื่องเทศคือส่วนที่มีสารปฏิชีวนะดังกล่าว  นักวิจัยจากศูนย์โรคอัลไซเมอร์แห่งมหาวิทยาลัยยูซีแอลเอ  ระบุว่า  ขมิ้นมีสารสำคัญที่ไม่พบในเครื่องเทศชนิดอื่นในการยัยยั้งไม่ให้เกิดกลุ่มก้อนโปรตีนเล้กๆ  ในสมองของผู้ป่วยอัลไวเมอร์ที่เรียกว่า Amyloid Plaques โดยสารในขมิ้นจะเข้าผ่ากลางกลุ่มโปรตีนดงักล่าวไม่ให้รวมตัวกัน
                ดร. Sally Frautschy  ผู้ช่วยศาสตราจานย์วิชาแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยยูซีแอลเอแนะนะให้รับประทานขมิ้นให้ได้ 200 มิลลิกรัมต่อครั้ง  อาทิตย์ก้ถือว่าเพียงแก่ความต้องการของร่างกายแล้ว  ขระเดียวกัน  เรายังพบสารแอนตี้ออกซิเดนในเครื่องเทศชนิดอื่น  อย่างขิงและอบเชย  ซึ่งให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับขมิ้น  รวมทั้งช่วยเสริมสร้างสร้างความแข็งแรงให้แก่เซลลืสมองได้อย่งดี
                …รู้อย่างนี้แล้ว  มื้อต่อไปต้องมีแกงขึ้นสำรับแล้วล่ะ
             ที่มา : นิตยสาร เคล็ดลับการกินเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น