วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

ลูกผู้ชายกับใส่เลื่อน

ลูกผู้ชายกับใส่เลื่อน




โรคไส้เลื่อน  ทุกข์แค่ไหน  ไม่เป็นไม่รู้หรอกครับ  แต่ถ้าไม่อยากเป็นไส้เลื่อนต้องมาลองทำความเข้าใจเพื่อที่จะได้รู้ว่า “ไส้เลื่อน”  นั้นเป็นอย่างไร
                ไส้เลื่อน  พอบ่อยในผู้ชาย  จนกลายคนคิดว่าผู้หญิงไม่เป็นไส้เลื่อน  เพราะไม่มีถุงอัณฑะให้ไส้เลื่อนลงมา  แต่ความจริงแล้วผู้หญิงก็มีโอกาศเป็นได้แต่ไม่บ่อยเท่าผู้ชายนั้นเอง  เพราะไส้เลื่อนเกิดจากการที่ความดันในช่องท้องมีมากกว่าความดันภายนอก  จนดันผนังช่องท้องให้โป่งออกมา  แล้วในที่สุดลำไส้ก้เคลื่อนออกมาทางช่องบริเวณขาหนีบได้
                ฟังดูแล้วแปลกๆไช่ไหมครับ  ไส่เลื่อนออกมาจากช่องท้อง  เป็นไปได้ยังไง  แล้วอย่างนี้ไม่เลื่อนไหลไปไหนต่อไหนหรอ  แล้วอวัยวะอื่นๆ  จะเลื่อนตามออกมาไหม
                อันที่จริงแล้ว  ในช่องท้องมีอวัยวะหลายอย่างอยู่รวมกัน  เช่น  ตับ ถุงน้ำดี  กระเพราะอาหาร  ลำไส้ใหญ่  ลำไส้เล้ก  ซึ่งอวัยวะเหล่านี้ถูกปกคลุมด้วยเยื่อหุ้มช่องท้อง (peritoneum) และมีผังผืดหรือกล้ามเนื้อหุ้มอีกชั้นเพื่อป้องกันอวัยวะภายใน  แต่ผนังเยื่อหุ้มช้องท้องนี้ไม่ได้ปิดสนิททีเดียว  แต่จะมีรูให้ท่อรังไข่ในผู้หญิง  และท่อรังไข่ในผู้หญิง  และท่อน้ำเชื้อในผู้ชายออกมาได้  ซึ่งภาวะไส้เลื่อนนี้  มี 2 รูปแบบ  คือ  แบบอินไดเร็คและไดเร็ค (indirect inguinal  hernia  และ  direct  inguinal hernia)
  • ไส้เลื่อนแบบอนไดเร็จ (indirect inguinal hernia)
แบบนี้จะเกิดในเด็ก  โดยขณะที่เด็กอยู่ในครรภ์  มีการพัฒนาของอวัยวะต่างๆ  เมื่อมีอายุครรภ์ประมาณ 7 สัปดาห์  อัณฑะจะเคลื่อนที่ออกจากช่องท้องมาอยู่ในถุงอัณฑะ  และรูหรือทางที่มันเคลื่อนที่จะเปิด  แต่เด็กผู้ชายบางคนทางเดินและรูดังกล่าวไม่ปิดทำให้ลำไส้เคลื่อนสู่ถุงอัณฑะ  ซึ่งเราเรียกว่า “ไส้เลื่อน”  มักจะพบในผุ้ชายสำหรับผุ้หญิงก็เกิดโรคนี้ได้เหมือนกัน  โดยรูที่เปิดเกิดจากเยื่อที่ยึดมดลูก round ligament มีการเคลื่นอตัวจึงเรียกว่าไส้เลื่อนนี้เป็นได้ทั้งชายและหญิง
  • Direct inguinal hernia
แบบนี้เกิดภายหลัง  ลำไส้เคลื่อนตัวออกจากช่องท้องลงมาเลย  โดยอาจจะเกิดความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้นอวัยวะเบียดเสียดกัน  จนต้องหาทางระบายออก  ตำแหน่งไหนที่ผนังเยื่อหุ้มช่องท้องบางมาๆ  หรือหย่อน  ลำไส้ก็จะไหลออกมาเป็ยถุง  กลายเป็นไส้เลื่อนก็ได้ครับ
ทีนี้  อาการของไส้เลื่อนในผู้ใหญ่นี้  มันก็อาจจะบอกได้ถึงความผิดปกติร้ายแรงอื่นๆ  ไม่ไช่เป็นเพียงแค่ไส้เลื่อนเทานั้น  แต่สาเหตุของไส้เลื่อนนี้อาจมาจากความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้นจากตับแข็ง  หรือพุงลมโป่งพองมากๆ  ทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น  ผลที่ตรวจเจอคือ  ไส้เลื่อนแต่ความผิกปกติภายในก็ต้องหาสาเหตุกันต่อไป
บางครั้ง  ไส้ที่เลื่อนออกมาก็อาจเลื่อนกลับเข้าไปในช่องท้องใหม่ได้เหมือนกัน  ถ้าเป้นแบบนี้คุณก็จะไม่มีอาการอะไรอื่นอีก  ไส้เลื่อนออกมาเลื่อนกลับเข้าไปได้เหมือนเดิมถ้าไม่ตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ไส้เลื่อนก็คงจะปล่อยทิ้งไว้  ไม่ได้รักา  และยังไม่ตระหนัก  แต่ถ้าไส้เลื่อนแล้วไม่กลับเข้าไป  คราวนี้ล่ะครับ  จะเกิดความรำคาญใจช่วงแรกๆ  และกลายเป็นทรมานในช่วงหลังๆ
ถ้าไส้เลื่อนลงมาบริเวณขาหนีบ  หรือบริเวณลูกอัณฑะคุณก็จะเกิดความรู้สึกหน่วงๆ  เวลายืนหรือเดิน  แล้วหากทิ้งไว้นานๆ  ไส้เลื่อนลงมาจะขาดเลือดมาหล่อเลี้ยง  อันตรายจะเกิดขึ้นเมื่อเนื้อลำไส้ตายและเริ่มเน่า  คุณจะเจ็บปวดและทรมานอย่างมาก  แถมมีอันตรายมากด้วยครับ
ดังนั้น  หากพบว่ามีก้อนหรือมีอะไรมาดูตุงอยู่แถวๆ  ขาหนีบ  หรือลูกอัณฑธ  หรือาจจะคลำเจอบ้างไม่เจอบ้างแต่ถ้ายกของหนักหรือไอแรงๆ  ก้องจะโผ่ลออกมาจนคลำได้และอาจจะจับได้ถึงเสืยงเคลื่อนไหวของลำไส้เหมือนเวลาเราหิวข้าว  คลำได้เป็นก้อน  แต่อาจจับยัดไส้กลับไปได้แสดงให้เห็นว่าผนังบุช่องท้องบริเวณนั้นอ่อนแอ  ความดันในช่องท้องจะดันเอาลำไส้ออกมา  หรืออย่างบริเวณลูกอัณฑะก้จะเกิดได้ง่าย  เพราะลำไส้จะเคลื่อนออกมาตามแนวของลูกอัณฑะที่เคลบื่อนที่ลงมาจากช่องท้องจนเข้ามาในลูกอัณฑธ  หากเป็นเช่นนี้จะพบว่าลูกอัณฑะมีขนาดใหญ่มากๆและหากปล่อยไว้นานๆ  ลูกอัณฑะจะบวมมาก
ไส้เลื่อนนี้ก่อให้เกิดภาวะแทรกช้อนได้เหมือนกัน  อาทิ
  • ภาวะลำไส้เคลื่อนออกมาแล้วไม่สามารถดันกลับเข้าไปในช่องท้อง (Incarcerted  hernid)
  • ภาวะลำไส้ในถุงมีการบิดทำให้ลำไส้ขาดเลือดไปเลี้ยงจนทำให้ลำไส้เน่า (Stragulated  hernid) ซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างแรง  ปวดบิด  คลื่นไส้  อาเจียน  หากลำไส้จะปวดทั่วท้อง  ปวดมากจนต้องนอนนิ่งๆ  ไม่สามารถขยัดตัวได้  เพราะปวดมาก  ปวดจนมีไข้
  • อุจจาระไม่สามารถเคลื่อนผ่านลำไส้ได้ (Bowel cbstruction) แบบนี้จะปวดแบปวดมวนๆ  คลื่อนไส้  อาเจียน  ท้องอืดไม่ผายลม
ไส้เลื่อนทั้งสองชนิด  รักษาได้ด้วยการผ่าตัด  เพื่อนำลำไส้กลับไปไว้ในช่องท้องตามเดิม  แล้วเย็บปิดซ่อมอซมผนังเยื่อหุ้มท้องตามเดิม  แล้วเย็บปิดซ่อมแซมผนังเยื่อหุ้มช่องท้องก้เรียบร้อย  ยกเว้นแต่ว่า  มีโรคอื่นๆที่ทำให้เกิดโรคร้าย  แต่เป็นภาวะที่ไปเพิ่มความดันในช่องท้องอย่างมาก  พบว่าคนที่ความดันในช่องท้องสูงอาจจะเกิดจากปัจจัยเหล่านี้  คือ  ตั้งครรภ์  ไอมากๆ  ไอเรื้อรัง  อ้วนมากๆ  ท้องผูก  ต่อมลูกหมากโต  ซึ่งทำให้ต้องเบ่งอย่างแรงขณะปัศสาวะ  ซึ่งจะไปเพิ่มแรงดันในช่องจนอาจเกิดไส้เลื่อนได้
                ที่มา : นิตยสาร ใกล้หมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น