วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สาระน่ารู้ของคนชอบอ่าน


โรคอ้วน  เป็นโรคที่เกิดจากภาวะไม่สมดุลระหว่าง การได้รับพลังงานและการใช้พลังงาน  ซึ่งก็มีสาเหตุต่าง ๆ  กันออกไป  เช่น  กรรมพันธุ์ฺ  การเผาพลาญพลังงาน  และระบบต่อมไร้ท่อผิดปกติ  หรืออาจจะเกิดจากการรับประทานมาก จนเกินไป
   คนที่ลองใช้สารพัดวิธีในการลดความอ้วนแล้ว  ไม่ได้ผล  ลองหันมาใช้สมุนไพรต่าง ๆ  ที่จะแนะนำควบคู่กันไป  อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก  สำหรับคนอ้วยที่ต้องการเอาชนะความอ้วนก็ได้
1. ชาเขียว  ได้มีการทดลองนำเอาสารสกัดชาเขียว  ซึ่งมี catechin  อยู่  25%  โดยทดลองในหลอดทดลอง  พบว่ามีฤทธิ์ยับยั้ง  gastric และ  pancreatic  lipase  และ  กระตุ้นการสร้างความร้อนในร่างกาย (Thermogenesis)  นักวิจัยจึงนำสารสกัดชาเขียว  มาทดลองกับผู้ที่เป็นโรคอ้วนไม่มากนัก (moderate  obes  patient)  โดยทดลองกับชายอายุ  18  ปีขึ้นไป  โดยให้รับประทานสารสกัด  วันละ  2  ครั้ง เช้า  กลางวัน  ครั้งละ  2  แคปซูล  (รวมแล้วได้  catechin  375 มก./วัน)  พบว่าหลังจาก  3  เดือน  น้ำหนักลดลง  4.0%  และรอบเอวลดลง  4.48%  ซึ่งเป็นการสนับสนุนได้ว่า  สารสกัดชาเขียวมีผลลดความอ้วนได้  โดยออกฤทธิ์ยับยั้ง  lipase  และกระตุ้นการเกิดความร้อนขึ้นในร่างกาย
2. พริกไทย  สารสำคัญที่คาดว่าช่วยลดน้ำหนักคือ  อัลคาลอยด์ piperine  ซึ่งเป็นอัลคาลอยด์ที่ทำให้มีรสชาดเผ็ดร้อน  ปกติพริกไทยใช้เป็นเครื่องเทศ  แต่ใช้ในปริมาณน้อย  ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร  อาจเพราะมีสารกลุ่ม  โมโนเทอร์ปีนและเซคลิเทอร์ปีน  ซึ่งเป็นสารที่ให้กลิ่นเฉพาะของพริกไทย
 3. บุก  มีสารสำคัญที่ช่วยลดน้ำหนัก  คือ  คาร์โบไฮเดรต (หรือ Dietary  fiber)  มีชื่อเรียกว่า  กลูโคแมนแน  แต่บุกมีผลึก  คัลเซียมออกซาเลตอยู่มาก  ต้องกำจัด  ด้วยการต้มน้ำหลาย ๆ  ครั้งนำมาปรุงเป็นอาหาร
 4. ส้มแขก  ทางภาคใต้ใช้แต่งรสเปรี้ยวในอาหาร  สารสำคัญที่คาดว่า  สามารถลดความอ้วนของส้มแขก  คือ  HCA (Hydroxy  Citric  Acid)  สรรพคุณแผนโบราณ  ใช้เป็นยาระบายอ่อน ๆ  และขับปัสสาวะ






12 ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกติดบ้าน

12 ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกติดบ้าน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          เชื่อ ว่าทุกคนหากได้มีบ้านซักหลังแล้ว ก็อยากให้บ้านของตัวเองร่มรื่นน่าอยู่ ด้วยการปลูกต้นไม้ต่าง ๆ เอาไว้ติดสวน แต่บางคนอาจไม่ชอบต้นไม้ใหญ่ จึงมีความคิดที่จะปลูก ไม้ดอกไม้ประดับ ไว้เป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยตกแต่งสวนในบ้านให้ออกมาสวยงามบ้างเหมือนกัน อีกทั้งไม้ดอกไม้ประดับยังเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ไม่มาก ปลูกง่าย เลี้ยงง่าย อีกด้วย วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับไม้ดอกไม้ประดับ และมีไม้ดอกไม้ประดับที่คนนิยมปลูกมาฝากกันด้วยค่ะ

ความหมายของไม้ดอกไม้ประดับ 

          ไม้ดอก หมายถึง พันธุ์ไม้ทุกชนิดที่ปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากความสวยงามของดอก มีดอกสวยงาม ดอกดก บานทน นิยมปลูกไว้ให้บานสวยงามอยู่กับต้นหรือตัดออกไปใช้ประโยชน์หรือจำหน่าย ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มได้ 2 กลุ่ม คือ ไม้ดอกประดับ และไม้ตัดดอก

          ไม้ดอกประดับ คือ พันธุ์ไม้ดอกทุกชนิดที่ปลูกไว้เพื่อประดับบ้านเรือนอาคารสถานที่โดยให้ดอก บานติดอยู่กับต้น เพื่อเพิ่มบรรยากาศให้สถานที่นั้นน่าอยู่อาศัยหรือน่าทำงาน ได้แก่ เข็มญี่ปุ่น พิทูเนีย แพงพวย พุทธรักษา บานชื่น ปทุมมา บัวสาย ฯลฯ ซึ่งหลายชนิดสามารถนำไปปลูกเป็นไม้ตัดดอกได้

          ดังนั้น ไม้ดอกไม้ประดับ จึงหมายถึงพันธุ์ไม้ที่ปลูกขึ้นเพื่อทำให้เกิดความสวยงามทั้งภายในบริเวณ บ้าน เช่น ในบริเวณสนามรอบ ๆ ตัวบ้าน แขวนไว้ตามชายคาบ้าน และตั้งประดับไว้ตามส่วนต่าง ๆ ภายนอกตัวบ้านหรืออาคาร เป็นต้น

การจำแนกประเภทและแบ่งพันธุ์ไม้

          มีหลักพิจารณาและจำแนกต่างกัน แล้วแต่ความมุ่งหมายและความประสงค์ ซึ่งอาจแบ่งจำพวกพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับเป็น 3 พวกใหญ่ ๆ คือ

  1. การแบ่งพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับตามความมุ่งหมายที่ใช้ หมายถึง การแบ่งพันธุ์ไม้ตามความต้องการและมุ่งหมายที่จะนำมาใช้เพื่อประโยชน์ ดังนี้

          1) ไม้ตัดดอก (Cut flower plant)

          หมายถึง ไม้ดอกที่ปลูก ณ สถานที่ที่มีภูมิประเทศ ภูมิอากาศ สภาพแวดล้อม เช่น สายลม แสงแดด อุณหภูมิ ดิน น้ำ ความชื้นสัมพัทธ์ การคมนาคม และระยะทางที่เหมาะสม เพื่อตัดเฉพาะส่วนดอกหรือช่อดอก ไปใช้ประโยชน์ หรือจำหน่าย เช่น แกลดิโอลัส เบญจมาศ เยอร์บีรา หน้าวัว กุหลาบ ดาวเรือง คาร์เนชัน และบัวหลวง ไม้ดอกดังกล่าวนี้ จะถูกตัดออกจากต้นไปใช้ประโยชน์พร้อมทั้งก้านดอกด้วย ทั้งนี้เพราะก้านดอกเป็นแหล่งสะสมอาหาร เมื่อดอกถูกตัดจากต้นเพื่อนำไปปักแจกัน หรือจัดกระเช้า อาหารที่เก็บสะสมไว้ที่ก้านดอกจะถูกนำมาใช้ ช่วยให้ดอกไม้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ดังนั้นคุณลักษณะสำคัญของไม้ตัดดอก นอกจากดอกจะต้องสวยสดแล้ว ก้านดอกก็ต้องใหญ่ ยาว และแข็งแรง แต่ไม่เกะกะเก้งก้าง บรรจุหีบห่อได้ง่าย ขนส่งสะดวก มีน้ำหนักไม่มากนัก และเก็บรักษาได้นาน

          ยังมีไม้ดอกอีกหลายชนิดที่มีก้านดอกสั้น กลวงและเปราะหักง่ายแต่ดอกสวยหรือมีกลิ่นหอม อายุการใช้งานทนนาน สามารถใช้ประโยชน์ได้ดีในวิถีชีวิตของคนไทย โดยการนำเฉพาะส่วนดอกไปร้อยมาลัย ทำอุบะ จัดพานพุ่ม หรือนำไปจัดแจกัน โดยใช้ก้านเทียมแทน เช่น รัก มะลิ พุด จำปี จำปา แวนดาโจคิม บานไม่รู้โรย
           2) ไม้ดอกกระถาง (Flowering pot plant)

          หมายถึง ไม้ดอกที่ปลูกเลี้ยงในกระถางตั้งแต่เริ่มเพาะเมล็ดหรือย้ายต้นกล้า โดยการเปลี่ยนกระถางให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นลำดับให้เหมาะสมกับความสูงและการ เจริญเติบโตของต้น เมื่อออกดอก จะนำไปใช้ประโยชน์ในการประดับทั้งต้นทั้งดอก พร้อมทั้งกระถาง ทำให้อายุการใช้งานทนนานกว่าไม้ตัดดอก เช่น บีโกเนีย แพนซี แอฟริกันไวโอเลต กล็อกซิเนีย อิมเพเชียน พิทูเนีย

          ไม้ดอกที่นำมาปลูกเป็นไม้กระถางจึงต้องมีทรงพุ่มต้นกะทัดรัด ไม่เกะกะเก้งก้าง หรือมีต้นสูงใหญ่ เกินกว่าที่จะนำมาปลูกเลี้ยงได้ในกระถางขนาดเล็กพอประมาณเพื่อความสะดวกใน การขนย้าย ที่สำคัญคือควรจะออกดอกบานพร้อมเพรียงกันเกือบทั้งต้น เพื่อความสวยงามในการใช้ประดับ ปัจจุบันวิทยาการเจริญก้าวหน้าอย่างมาก มนุษย์สามารถปลูกเลี้ยงไม้ดอกหลายๆ ชนิดในกระถางขนาดเล็ก แม้จะมีขนาดต้นสูงใหญ่ โดยการใช้สารเคมีที่เรียกว่า สารชะลอการเจริญเติบโต ราดหรือพ่น เพื่อทำให้ไม้ดอกเหล่านั้น มีขนาดต้นเตี้ยลงตามความต้องการ ตลอดจนใช้เทคนิคบางประการในระหว่างการปลูกเลี้ยง เพื่อบังคับให้ไม้ดอกออกดอกพร้อมเพรียงกันทั้งต้นได้ โดยคงจำนวน ขนาด และสี ตลอดจนความสวยงามของดอก ให้ใกล้เคียงกับของเดิมทุกประการ

          3) ไม้ดอกประดับแปลง (Bedding plant)

          หมายถึง ไม้ดอกที่ปลูกลงแปลง ณ บริเวณที่ต้องการปลูกตกแต่ง เพื่อประดับบ้านเรือน อาคารสถานที่ ตลอดจนสวนสาธารณะ โดยไม่ตัดดอกหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปใช้ประโยชน์ แต่ปล่อยให้ออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม ติดอยู่กับต้นภายในแปลงปลูก เพื่อประโยชน์ในการประดับ จนกว่าจะร่วงโรยไป

  2.  การแบ่งพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับตามลักษณะนิสัยของพันธุ์ไม้ เช่น การแบ่งตามถิ่นกำเนิด แบ่งตามอายุความเจริญเติบโตของพันธุ์ไม้ ตามลักษณะเนื้อไม้ ตามสิ่งแวดล้อม และตามลักษณะของลำต้น

  3.  การแบ่งพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับตามหลักพฤกษศาสตร์ มีความมุ่งหมายเพื่อจำแนกพันธุ์ไม้ทั่ว ๆ ไปให้แน่ชัดในรูปร่าง ลักษณะนิสัยการดำรงชีพ และการสืบพันธุ์ ของพันธุ์ไม้ให้อยู่เป็นกลุ่มที่แน่นอน ไม่ปะปนกัน

คุณภาพของไม้ดอกไม้ประดับ  

          ไม้ดอกและไม้ประดับเป็นอวัยวะของพืชที่ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งเมื่อมีการสูญเสียคุณภาพของก้าน ใบ หรือดอก จะไม่สามารถจำหน่ายได้ เพราะตลาดไม่ยอมรับ การสูญเสียคุณภาพมีสาเหตุมาจากหลายประการ เช่น การเหี่ยว การร่วงของใบหรือกลีบดอก การโค้งงอ เป็นต้น ในการคัดคุณภาพหรือจัดมาตรฐานไม้ดอกไม้ประดับนั้น ต้องเข้าใจสาเหตุที่ทำให้คุณภาพของไม้ดอกไม้ประดับเสียไปด้วย ได้แก่

           1.  การเจริญเติบโตจนแก่ ทำให้คุณภาพเสื่อมลง และอาจทำให้เกิดการโค้งงอของก้านดอกได้

           2.  การเสื่อมสภาพเป็นช่วงเวลาที่ดอกไม้กำลังจะหมดอายุซึ่งคุณภาพจะต่ำลง

           3.  การเหี่ยว อายุการปักแจกันของดอกไม้และใบไม้ขึ้นอยู่กับการได้รับน้ำอย่างต่อเนื่องและพอเพียง

           4.  การเหลืองของใบและอวัยวะอื่น ๆ ทำให้ดอกหมดอายุการใช้งาน

           5.  การร่วงของกลีบดอกและใบหรืออวัยวะอื่น ๆ จากสาเหตุต่าง ๆ


ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของไม้ดอกไม้ประดับ

            1.  ดิน เป็นปัจจัยที่สำคัญอันดับแรกเพราะดินจะช่วยพยุงลำต้น เป็นแหล่งให้น้ำให้อากาศตลอดจนแร่ธาตุต่าง ๆ ดินที่อุดมสมบูรณ์พืชก็จะเจริญเติบโตได้ดี

            2.  ความชุ่มชื้นหรือน้ำ หมาย ถึง ความชุ่มชื้นที่อยู่ในดิน และความชุ่มชื้นที่อยู่ในอากาศ ดินที่อุดมสมบูรณ์มีธาตุอากาศ หากขาดน้ำในดินรากก็ไม่สามารถดูดไปใช้ได้ ความชุ่มชื้นในอากาศมีความจำเป็นต่อต้นไม้เพราะจะช่วยให้ต้นไม้สดชื่นอยู่ เสมอ

            3.  แสงสว่าง มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของต้นพืชนับตั้งแต่เมล็ดเริ่มงอก การสร้างฮอร์โมนในพืช การสร้างเม็ดสี ตลอดจนการออกดอกผลและอื่น ๆ พืชบางชนิดจะออกดอกเมื่อได้รับแสงสว่างเพียงพอ

            4.  อุณหภูมิ เป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโต คุณภาพของดอกและปริมาณดอก

            5.  ปุ๋ย การเจริญเติบโตของพืชต้องการอาหารธาตุ ในการเจริญเติบโตจะได้รับอาหารธาตุเหล่านั้นจากดิน น้ำและอากาศ ในปัจจุบันธาตุในดินไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเพื่อปรุงดินให้มีธาตุตามที่พืชต้องการ

            6.  โรคและแมลง โรคที่เกิดกับพืชมีทั้งโรคที่เกิดจากเชื้อรา และแบคทีเรีย ส่วนแมลงนั้นมีมากมายหลายชนิด เช่น เพลี้ย หนอนต่าง ๆ เป็นต้น การฉีดยาป้องกันโรคและแมลงก่อนจะช่วยให้พืชสามารถเจริญเติบโตได้ดี

            7.  การตัดแต่ง จะมีผลต่อการเจริญเติบโต แตกกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ ซึ่งจะช่วยในการกำหนดรูปร่างรูปทรงของพืชนั้น รวมทั้งการตัดกิ่งที่ไม่ต้องการออกด้วย

            8.  ตำแหน่งที่ปลูก มี ผลต่อการเจริญเติบโตอีกประการหนึ่ง การเรียนรู้ลักษณะนิสัยของพืชนั้น ๆ จะทำใหสามารถเลือกสถานที่ที่จะปลูกพืชได้เหมาะสมเพื่อให้มีการเจริญเติบโต ได้ดี


ตัวอย่างไม้ดอกไม้ประดับ


12 ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกติดบ้าน
ภาพจาก วิกิพีเดีย

1. บัว

           พันธุ์ไม้น้ำที่ถือกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ผุดผ่องและคุณงาม ความดี และในพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบระดับสติปัญญาของมนุษย์กับการเจริญเติบโตของบัว เป็น 4 เหล่าคือ บัวในโคลนตม บัวใต้น้ำ และบัวเหนือน้ำ ดังนั้นบัวจึงเป็นพันธุ์ไม้น้ำที่เหมือนเป็นตัวแทนของความสง่างาม ดอกมีขนาดใหญ่ มีสีสันสวยงาม บางชนิดมีกลิ่นหอมน่าชื่นชม พุทธศาสนิกชนนิยมนำมาบูชาพระ


12 ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกติดบ้าน
ภาพจาก วิกิพีเดีย

2. กุหลาบ

           เป็นไม้ดอกที่มีความสวยงาม จนกระทั่งมีผู้ให้ฉายาว่า "ราชินีแห่งดอกไม้" ดังนั้นกุหลาบจึงเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกและใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในและต่าง ประเทศ นอกจากนี้กุหลาบยังมีคุณสมบัติที่ดีเด่นอีกหลายประการ สามารถใช้ประโยชน์ได้กว้างขวาง เช่น เป็นไม้กระถาง ไม้ตัดดอก ตกแต่งสถานที่ ตลอดจนใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับทำเป็นน้ำมันหอมระเหยและดอกไม้แห้งด้วย

12 ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกติดบ้าน

3. โป๊ยเซียน

          ต้นไม้แห่งโชคลาภตามความเชื่อถือแต่โบราณ จัดเป็นไม้อวบน้ำอยู่ในวงศ์ Euphorbiaceae ซึ่งเป็นวงศ์ใหญ่มาก พบได้ทั่วไปในประเทศเขตร้อนพืชในวงศ์นี้มีมากกว่า 300 สกุล โป๊ยเซียนจัดเป็นพืชที่อยู่ในสกุล Euphorbia ซึ่งในสกุลนี้มีไม่ต่ำกว่า 2,500 ชนิด ได้แก่ คริสต์มาส สลัดได ส้มเช้า หญ้ายาง และกระบองเพชรบางชนิด เป็นต้น


12 ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกติดบ้าน
ภาพจาก วิกิพีเดีย

4. ชวนชม

          เป็นพรรณไม้ที่มีสีสันของดอกสวยงามสะดุดตามีรูปทรงของต้นและกิ่งก้านที่สวย งามและอ่อนช้อยนุ่มนวล เป็นไม้ที่ปลูกเลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพแห้งแล้งจนได้รับสมญาว่า Desest Rose หรือ "กุหลาบทะเลทราย" นอกจากนี้ชวนชมยังเป็นชื่อที่มีความไพเราะเป็นศิริมงคลตามความเชื่อของคนไทย แม้แต่ชาวจีนซึ่งเรียกชวนชมว่า "ปู้กุ้ยฮวย" หรือ ดอกไม้แห่งความร่ำรวยก็ยังมีความหมายไปในทางศิริมงคลเช่นกัน


12 ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกติดบ้าน
ภาพจาก วิกิพีเดีย
5. ขิงแดง

           เป็นพืชที่มีการปลูกประดับบ้านเรือนมานานแล้ว มีการดูแลรักษาง่าย สามารถเจริญเติบโต ได้ดีในสภาพดินทั่วไป ขยายพันธุ์ได้ด้วยหน่อ และให้ดอกตลอดปี ขิงแดงมีช่อดอกที่สวยงาม สามารถบานอยู่บนต้นไม้ได้นาน และมีรูปทรงของดอกที่แปลกกว่า ไม้ดอกชนิดอื่น ๆ ประกอบกับเมื่อนำมาปักแจกันพบว่ามีอายุในแจกันที่เหมาะสม ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ดังจะเห็นได้จากวิวัฒนาการจากการปลูกเป็นไม้ประดับบริเวณบ้าน มาเป็นการปลูกเพื่อตัดดอกเป็นการค้ามากขึ้น


12 ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกติดบ้าน
ภาพจาก วิกิพีเดีย

6. มะลิ

           เป็นพรรณไม้พุ่มยืนต้นขนาดกลาง แตกกิ่งก้านสาขาออกรอบ ๆ ลำต้นสูงประมาณ 5 ฟุต ใบเป็นใบเดี่ยวแตกออกเป็นคู่ ไปตามก้านต้นลักษณะใบป้อมมนปลายใบแหลมโคนใบสอบ ขอบใบเรียบไม่มีจัก ผิวใบเรียบสีเขียวเข้มเป็นใบยาว 2-3 นิ้ว มีดอกเป็นดอกเดี่ยวออกเป็นช่อตามปลายยอดหรือปลายกิ่งประมาณ 3-5 ดอก แล้วแต่ชนิดพันธุ์ ดอกมีสีขาวกลิ่นหอม มีทั้งดอกลาและดอกซ้อน ออกดอกตลอดไป มะลิเป็นไม้ที่ชอบแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง ต้องการน้ำปานกลาง ปลูกในดินร่วนซุย ขยายพันธุ์โดยการปักชำ หรือตอน


12 ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกติดบ้าน

7. ดาวเรือง

           เป็นไม้ดอกที่คนไทยรู้จักกันดีชนิดหนึ่ง เนื่องจากปลูกง่าย โดเร็ว คงทนต่อสภาพแวดล้อม มีสีสันสดใส ดอกมีลักษณะกลมสวยงาม อายุการใช้งานนานประมาณ 7-10 วัน นอกจากนี้ ดาวเรืองยังเป็นพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น ประมาณ 60-70 วัน ก็สามารถตัดจำหน่ายได้ รวมทั้งดาวเรืองยังเป็นพืชที่ขึ้นได้ดีทุกสภาพพื้นที่และทุกฤดูกาลของประเทศ และเป็นไม้ดอกสามารถทำรายได้กับผู้ปลูกสูง


12 ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกติดบ้าน
ภาพจาก วิกิพีเดีย

8. ทานตะวัน

            เป็นดอกไม้สีเหลือง ดอกใหญ่กว่าดอกรักเร่เป็นที่สะดุดตามาก บางทีดอกจะใหญ่กว่าลำต้นด้วยซ้ำ นิยมปลูกเป็นแปลง เป็นไม้ที่ปลูกง่ายและโตเร็ว เมื่อออกดอกแล้วดอกจะหันไปทางทิศตะวันออกเพื่อรับแสงแดดอย่างเต็มที่ โดยไม่หันไปทางทิศอื่น จึงได้ชื่อว่า ดอกทานตะวัน

12 ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกติดบ้าน

9. โกสน

            จัดเป็นไม้ประเภทไม้พุ่ม มีตั้งแต่พุ่มขนาดเล็กจนถึงพุ่มขนาดใหญ่ โดยทั่วไปนิยมปลูกเป็นไม้ประดับในกระถางเพื่อให้มีลักษณะเป็นพุ่มเล็ก ๆ แต่ถ้าปลูกลงดินและมีอายุหลายปีลำต้นสูงใหญ่เป็นพุ่มขนาดใหญ่ได้เช่นกัน จุดเด่นของโกสนคือเป็นไม้ที่มีใบแปลกไปจากไม้ชนิดอื่น ๆ มีรูปร่างลักษณะของใบแตกต่างกันออกไปหลากหลายรูปแบบ


12 ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกติดบ้าน

10. สาวน้อยประแป้ง

             เป็นไม้ประดับอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับความนิยมปลูกเลี้ยงไว้ประดับอาคารบ้าน เรือนและสำนักงานอย่างแพร่หลาย ไม่ต่างไปจากเขียวหมื่นปี ไม้ในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศเมื่อมาถึงเมืองไทยก็กลายเป็นไม้ มงคลที่ถูกตั้งชื่อให้มีความหมายไปในทางมงคล


12 ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกติดบ้าน
ภาพจาก วิกิพีเดีย

  11. เขียวหมื่นปี

            เป็นไม้ประดับที่มีใบสวยงาม สีเขียวตลอดทั้งปี สามารถเจริญงอกงามได้แม้ในที่มีแสงสว่างเพียงเล็กน้อย จึงนิยมใช้ปลูกเลี้ยงประดับภายในอาคาร นอกจากนี้เขียวหมื่นปียังทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศที่แห้งแล้งหรือความชื้น ต่ำได้ดี เป็นพืชในวงศ์ Araceae สกุล Aglaonema มีถิ่นกำเนินกระจายอยู่ในประเทศเขตร้อนของเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ จีน และแอฟริกา ไม้ในตระกูลนี้คนไทยส่วนใหญ่มักจะรู้จักกันในชื่อว่าว่านมงคลที่มีสรรพคุณ ต่าง ๆ กันตามความเชื่อถือ


12 ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกติดบ้าน
ภาพจาก Online Plant Guide

12. บอนสี

            เป็นไม้ประดับที่มีความสวยงาม โดยเฉพาะใบที่มีรูปทรงและสีสันสวยงามแปลกตาจนได้ชื่อว่า "ราชินีแห่งไม้ใบ" เป็นพืชในวงศ์ Araceae สกุล Caladium มีถิ่นกำเนิดแถวทวีปอเมริกาใต้และประเทศในเขตร้อนทั่วไป บอนสีเป็นไม้ประเภทล้มลุกที่มีหัวสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน คล้ายหัวเผือกหรือมัน มีรากเป็นเส้นฝอยเล็ก ๆ แทงออกมาระหว่างหัวกับลำต้นและพักตัวอยู่ในฤดูหนาว โดยจะทิ้งใบจนหมดสิ้นและเริ่มผลิใบเจริญเติบโตอีกครั้งในฤดูฝน


            เป็น อย่างไรกันบ้างคะ สำหรับข้อมูลเรื่องไม้ดอก ไม้ประดับน่ารู้ที่คุณสามารถนำมาใช้ตกแต่งบ้านเรือนให้มีความร่มรื่นน่าอยู่ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอด ได้มองไม้ดอกเหล่านี้ผลิดอกเบ่งบานยามเช้า คงเป็นภาพที่น่าชวนชม ถ้ายังไงลองเลือก ไม้ดอกไม้ประดับสักชนิดไปลองปลูกกันดูบ้างนะคะ

 

 

เรียบเรียงโดย 

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วิธีการเก็บรักษาพระเครื่องพระบูชา

 
วิธีล้างคราบรักหรือคราบต่างๆ วิธีขจัดสนิมเขียว วิธีการเก็บรักษาพระเครื่องพระบูชา

1. วิธีล้างคราบรักหรือคราบต่างๆ ที่ติดอยู่กับพระผง, พระกรุต้องทำอย่างไร
2. วิธีขจัดสนิมเขียวออกจากองค์พระบูชาต้องทำอย่างไร
3. วิธีการเก็บรักษาพระเครื่อง-พระบูชาของคุณแทนทำอย่างไรบ้าง

       1. วิธีล้างทำความสะอาดพระเครื่องนั้น ต้องดูที่ว่าเราต้องการทำความสะอาดอะไร และพระนั้นๆ มีเนื้อวัสดุเป็นอะไร เพราะการทำความสะอาดจะไม่เหมือนกันครับ การทำความสะอาดก็ต้องประณีตพอสมควร ไม่เช่นนั้นจะทำให้พระเก่าๆ นั้นเสียหายได้ครับ เอาละผมจะพูดถึงการทำความสะอาดทั่วๆ ไปก่อน ถ้าพระเครื่องของคุณสกปรกอาจจะมาจากคราบเหงื่อไคลหรือผงฝุ่นละอองต่างๆ ก็ให้นำเตรียมน้ำอุ่นแล้วผสมกับสบู่เหลวใส่ถ้วยไว้ หาพู่กันระบายสี เอาชนิดดีๆ หน่อย จะเป็นของสง่ามะยุระก็ได้เอาประเภทขนแปรงอ่อนๆ ก็แล้วกัน จากนั้น ให้ตัดปลายพู่กันให้สั้นลงสักเกือบครึ่งหนึ่งเพื่อให้ขนแปรงมีสปริง จากนั้นก็นำพระที่จะล้างลงแช่ในน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ ค่อยๆ ใช้พู่กันปัดเบาๆ หลายๆ ครั้ง จะเห็นว่าคราบสกปรกจะค่อยหลุดออกเองครับ ทำอย่างนั้นจนกว่าจะพอใจ แล้วก็นำน้ำสะอาดมาใส่ถ้วยแล้วนำพระมาล้างอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็นำพระไปผึ่งลมจนแห้งหรือผึ่งลมไว้สัก 24 ช.ม. ก็เป็นอันเสร็จพิธีครับ ข้อสำคัญอย่าล้างแบบรีบร้อนเพื่อต้องการเอาสิ่งสกปรกออกเร็วๆ ต้องค่อยๆ ล้างออกทีละนิดทีละนิดนะครับ
ส่วนวิธีล้างรักออกจากองค์พระนั้น เป็นกรรมวิธีที่ต้องใช้ความประณีตมาก ขั้นแรกให้ไปซื้อนำยาลอกสีจากร้านวัสดุก่อสร้างมาหนึ่งกระป๋อง เอากระป๋องเล็กก็พอไม่กี่บาทหรอก จากนั้นก็หาพู่กันขนแข็งจากร้านวัสดุก่อสร้างนั่นแหละมาหนึ่งอัน แต่ไม่ต้องตัดปลายอีก หาไม้ไผ่หรือไม้เสียบลูกชิ้นก็ได้มาหนึ่งอัน จากนั้นก็หาภาชนะใส่น้ำไว้ 2 อัน อันแรกให้ใส่น้ำผสมสบู่เหลว อันที่สองให้ใส่น้ำสะอาดเตรียมไว้ จากนั้นก็นำน้ำยาลอกสีมาใส่ภาชนะที่เป็นกระเบื้องหรือแก้วก็ได้ ตักออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็เอาไม้ไผ่แตะน้ำยานำมาแต้มที่บริเวณรักที่ต้องการจะลอก ให้ทำทีละจุดเล็กๆ ก่อน ทิ้งไว้สักครู่ก็จะเห็นว่ารักจะเริ่มพองและเริ่มล่อนออกมา ก็ให้ใช้พู่กันปัดเอารักออก ทำไปเรื่อยๆ จนหมด จากนั้นก็นำพระไปล้างที่น้ำผสมสบู่เหลว ปัดด้วยพู่กันขนอ่อน ล้างให้สะอาดแล้วล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาดอีกที แล้วจึงนำไปผึ่ง เป็นอันเสร็จพิธีครับ อย่าลืมว่า การทำทั้งสองอย่างที่บอกมานี้ต้องค่อยๆ ทำทีละน้อยทีละจุด อย่างประณีต ไม่เช่นนั้นจะทำให้องค์พระเสียหายได้ครับ อ้อน้ำยาลอกสีนี้ เวลาใช้ต้องระวังให้มากครับ อย่าให้กระเด็นโดนผิวหรือตาเป็นอันขาด เพราะมีส่วนผสมของโซดาไฟครับ ถ้าโดนผิวจะแสบจี๊ดเลยครับ ถ้ากระเด็นโดนก็ให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดมากๆ และถ้าโดนตาละก็ไม่ต้องพูดแหละครับรีบล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วรีบหาหมอลูกเดียว
         2. วิธีขจัดสนิมเขียวออกจากพระบูชา ก็ทำคล้ายๆ กับการล้างคราบสนิมเขียวจากเหรียญถ้าเป็นไม่มากนักก็ใช้ครีมทาผิว ยี่ห้อนีเวีย หรือซิตร้าไวท์ก็ได้ พอกไว้บริเวณที่เป็นสนิมเขียว ทิ้งไว้ประมาณ 24 ช.ม. แล้วจึงล้างออก ถ้ายังออกไม่หมดก็พอกใหม่ทิ้งเวลาให้นานขึ้นๆ ทำไปเรื่อยๆ จะค่อยๆ ออกจนหมดครับ ยังมีวิธีที่ล้างสนิมเขียวให้เร็วขึ้น แต่เสี่ยงกับการเสียผิวพระครับ ผู้ล้างต้องมีความรู้ความชำนาญมากจึงจะทำได้ครับ
         3. การเก็บรักษาพระเครื่อง-พระบูชา ก็ไม่มีอะไรมากครับ พระเครื่องที่เราใส่ห้อยคอ ถ้าไม่คิดอะไรมากก็เลี่ยมพลาสติกหุ้มแล้วไปจับกรอบทองหรืออะไรก็แล้วแต่อีก ที ไอเหงื่อจะไม่ไปโดนองค์พระครับ แต่ถ้าใส่กรอบแบบตลับ ไอเหงื่อจะซึมเข้าได้ ก็คอยสังเกตดู ถ้ามีสิ่งสกปรกเข้าไป นานๆ ก็นำมาล้างตามที่บอกไปแล้วซักที ก็พอครับส่วนพระที่เก็บไว้ที่บ้านก็ให้หากล่องใส่พระที่เป็นกล่องสแตนเลสที่ มีฟองน้ำสองด้าน (ด้านบนและด้านล่าง) สำหรับใส่พระเขามีขายทั่วไปตามร้านขายอุปกรณ์ใส่พระ นำพระเก็บไว้ให้ห่างกันพอสมควร ไม่ควรใส่จนแน่นเกินไปจะทำให้พระเสียหายได้ และควรใส่พระประเภทเนื้อแบบเดียวกันในกล่องเดียวกัน เช่นเนื้อผงก็ใส่กับเนื้อผง เนื้อดินก็ใส่กับเนื้อดิน เนื้อโลหะก็ใส่กับเนื้อโลหะ เหรียญก็ใส่กับเหรียญ และไม่ควรใส่พระในกล่องโดยซ้อนกันสองชั้นจะทำให้พระเสียหายได้
         ส่วนพระบูชาก็ไม่มีอะไรมากตั้งไว้บนหิ้งพระนั่นแหละครับ ถ้ากลัวว่าจะมีฝุ่นหรือความชื้นมาเกาะก็หาครอบแก้วมาครอบไว้ แล้วนำซองกันชื้นมาใส่ไว้เพื่อกันความชื้นก็พอช่วยได้ครับ ซองกันชื้นถ้าหาที่ไหนไม่ได้ก็ไปซื้อที่ร้านถ่ายรูปหรือร้านขายกล้องถ่ายรูป เขามีขายครับ การเก็บรักษาพระเครื่อง-พระบูชาที่ผมบอกนี้ไม่ได้กันขโมยนะครับ ถ้ากันขโมยก็ต้องเก็บไว้ที่ธนาคารครับ

อ้างอิงมาจาก http://board.palungjit.com
โดย ผอ. ประภาส   จันตาวรรณเดช   โรงเรียนบ้านทุ่งจำเริง